Sunday, May 8, 2011

"เด็กหานาฬิกา" บทความดีๆน่าอ่านนะ

ชาวนากับนาฬิกา 

เอาข้อคิดดีๆ ที่เคยอ่านมาฝากครับ 
ชาวนาคนหนึ่ง หลังจากไปทำความสะอาดคอกม้า ออกมาก้อพบว่านาฬิกาพกของตน ได้หล่นหายไปเสียแล้ว 
นาฬิกาพกเรือนนี้มีความหมายต่อเขาอย่างมาก ด้วยเป็นของขวัญที่แม่ของเขาทิ้งไว้ให้ เขารีบวิ่งกลับไปที่คอกม้า รื้อหาจนทั่วบริเวณแทบพลิกแผ่นดินหา แต่ก้อหาไม่พบ
เขาเดินออกมาจากคอกม้าด้วยเหงื่อที่ท่วมตัว มองไปเห็นมีเด็กกลุ่มหนึ่งกำลังเล่นกันอยู่แถวนั้น 
http://www.bloggang.com/data/n/nongmalakor/picture/1245739672.jpg

เขาจึงได้คิดว่าอาจเป็นเพราะตัวเองแก่แล้วหูตาฝ้าฟาง ทำให้หาไม่เจอ แต่เด็กๆหูตายังแหลมคม น่าจะหาเจอก็เป็นได้ เขาจึงเรียกเด็กๆมาแล้วบอกว่า

"
เด็กๆ ถ้าใครหานาฬิกาพกของลุงเจอ ลุงจะให้เงินคนนั้นหนึ่งเหรียญ"
เด็กๆ พากันวิ่งกรูเข้าไปในคอกม้า จนเวลาผ่านไปนานโข ...
ตอนที่เด็กๆเดินกลับออกมาจากคอกม้าทีละคน ต่างมีสีหน้าผิดหวังที่หานาฬิกาพกไม่เจอ ขณะที่ชาวหน้ากำลังถอดใจคิดจะเลิกหานั่นเอง...
ก็มีเด็กคนหนึ่งมากระซิบกระซาบบอกกับเขาว่า
ผมจะลองเข้าไปหาดูอีกครั้งหนึ่ง แต่คราวนี้ขอให้ผมเข้าไปคนเดียวเท่านั้น
ชาวนามองตามหลังเด็กชายไปอย่างไม่มั่นใจ คิดในใจว่า..พวกเราแทบจะพลิกคอกม้าหายังไม่เจอ แล้วลำพังเด็กคนเดียว จะหาเจอได้อย่างไร?
http://www.bloggang.com/data/n/nongmalakor/picture/1245740257.jpg

เด็กคนนั้นเข้าไปตั้งนาน ก็ยังไม่กลับออกมา ชาวนาเริ่มสิ้นหวัง
ในขณะชาวนาคิดจะเลิกรอและจากไปนั่นเอง 

เด็กชายคนนั้นก็เดินออกมาจากคอกม้า
ในมือของเขาถือนาฬิกาพกเรือนหนึ่ง

ชาวนาถามด้วยความแปลกใจว่า
"
เจ้าหาเจอได้อย่างไร"

เด็กชายบอกว่า "พอเข้าไปข้างใน ผมก็ไม่ได้ทำอะไรเลย เพียงแต่นั่งเงียบๆอยู่ที่พื้น ไม่นานผมก็ได้ยินเสียง ติ๊กตอก ติ๊กตอก จากนั้นผมก็เดินตามเสียงไป แล้วผมก็เจอนาฬิกาเรือนนี้"


ข้อคิดเตือนใจ  

ขณะที่เรากำลังยุ่งวุ่นวายอยู่กับชีวิตหรือหน้าที่การงาน บางครั้งก็จำเป็นอย่างมากที่จะต้องสงบจิตใจมาคิดตรึกตรองดูว่า สิ่งที่เรากำลังทำอยู่นั้น ถูกต้องและเหมาะสมดีแล้วหรือเปล่า และนี่ก็อาจเป็นความหมายที่แท้จริงของคำโบราณที่ว่า
บนเส้นทางของชีวิต บางครั้งควรตึงเครียด บางครั้งก็ควรผ่อนคลาย

แต่ผมได้ข้อคิดว่า บางครั้งขณะที่เรามีปัญหา ถ้าเรานิ่ง ค่อยๆตั้งสติ เราจะพบปัญหาที่แท้จริง และสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างถูกทาง 
แล้วเพื่อนละครับ ได้ข้อคิดอะไรบ้าง?

ขอขอบคุณ... เจ้าของบทความ และ รูปภาพประกอบจาก  baby.kapook.com/story/story2.php

Monday, May 2, 2011

กุหลาบแดงช่อนั้น... เพื่อแม่





ชายคนหนึ่งหยุดรถที่ร้านขายกระเช้าดอกไม้  เตรียมจะสั่งกระเช้าดอกไม้ทางโทรศัพท์  เพื่อให้ร้านโทรศัพท์ติดต่อกับร้านดอกไม้อีกเมืองหนึ่ง ให้จัดส่งดอกไม้ไปอวยพรวันเกิดแม่ของเขา ที่อยู่ห่างออกไปประมาณสี่ร้อยกิโลเมตร  

เมื่อเขาลงจากรถยนต์  เขาเห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งอายุราว ๕ ปี  นั่งร้องไห้อยู่ที่หน้าร้าน  จึงเข้าไปถาม  "ร้องไห้ทำไมจ๊ะหนู  มีอะไรให้ช่วยไหม"

เด็กหญิงตอบทั้งน้ำตาว่า  "หนูอยากจะซื้อดอกกุหลาบสีแดงไปให้แม่  ดอกกุหลาบราคาดอกละห้าบาท  แต่หนูมีเงินบาทเดียวเท่านั้นเอง"

ชายคนนั้นยิ้มแล้วบอกว่า "ไม่เป็นไร  ลุงจะซื้อให้หนูเอง"  แล้วเขาก็จ่ายเงินห้าสิบบาท  ซื้อดอกกุหลาบสีแดงสิบดอกให้แก่หนูน้อย  แล้วถามว่า  "แม่ของหนูอยู่ที่ไหน  หนูจะพาลุงไปหาแม่ของหนูด้วยได้ไหมล่ะ" 

หนูน้อยตอบตกลง  และบอกว่า  แม่ของเธออยู่ใกล้ร้านขายดอกไม้นี่นิดเดียวเอง  เดินไปเดี๋ยวก็ถึง

เด็กหญิงพาชายใจดีผู้มีน้ำใจไมตรีออกจากร้าน  เดินผ่านเข้าไปในวัดที่อยู่ใกล้ร้านเข้าไปถึงศาลาตั้งศพ  ซึ่งเพิ่งจะเสียชีวิตมาไม่กี่วั  หนูน้อยหยิบดอกกุหลาบสีแดงเข้าไปกราบหน้าศพซึ่งมีรูปหญิงกลางคนตั้งอยู่แล้วร้องไห้ใหญ่อีกครั้ง

ต่อจากนั้น  ชายใจดีเดินกลับมายังร้านดอกไม้แห่งเดิมด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก  เขาบอกยกเลิกการสั่งดอกไม้ทางโทรศัพท์ที่เตรียมส่งให้แม่  แต่ซื้อดอกไม้ช่อใหญ่แล้วขับรถใช้เวลาห้าชั่วโมงตรงไปหาแม่ของเขาซึ่งอยู่ห่างออกไปสี่ร้อยกิโล ในคืนวันนั้นเอง


ขอบคุณที่มา  ::  หนังสือ "๑๐๘ วิธี มอบน้ำใจให้แก่กัน" รวบรวมเรียบเรียงโดย ดร.อาทร จันทวิมล 
ขอบคุณที่มา  ::  ชีวิตงาม เล่ม ๑๐